หากจะต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นสีเทียน สีโปสเตอร์ สีอะคริลิค หรือสีน้ำมัน เพื่อสร้าง สรรค์ผลงานอันโดดเด่น และมีคุณภาพจากจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดของตัวเอง ‘Master Art’ สามารถตอบโจทย์ทุกอย่างที่กล่าวมาได้อย่างครบถ้วน แบรนด์ที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องของอุปกรณ์ศิลปะ และยังเป็นรายแรก และรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับเครื่องหมาย ‘complies to new european EN71 & phthalate safety standard’ ผ่านการรับรองจากสถาบันควบคุมคุณภาพในยุโรปว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากโลหะหนักและสารก่อมะเร็งที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเด็ก

                มาทำความรู้จักแบรนด์ ‘Master Art’ ที่ใครได้ยินแล้วต้องร้อง อ๋อ! ผ่านมุมมอง ‘วี วีราภรณ์ ลี้ศิริวัฒนกุล’ ‘Group Product Manager’ ของบริษัท ดี.เอช.เอ. สยามวาลา ว่ามีการเดินทางไปสู่ความสำเร็จระดับแนวหน้าได้อย่างไร
แนวคิดและ Concept ของ แบรนด์ Master Art เป็นอย่างไร?

               “เราจะมีคำว่า Creative, Colourful and Safety for Children หลัก ๆ 3 อันนี้เป็นส่วนประกอบที่เป็น Concept ของแบรนด์เรา Creative คือ ความคิดสร้างสรรค์ Colourful ก็คือความมีสีสัน แล้วก็เรื่องของความปลอดภัยในตัวสินค้าหลัก เราก็จะเอา 3 อย่างนี้มาทำเป็นสินค้าของ Master Art มาสร้างเป็นแบรนด์ที่ทุกคนจะใช้แล้วก็มีความสุข โดยที่เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับเด็ก ทุกคน และทุกตัวสินค้า”
จุดเด่นของ Master Art
               “จุดเด่นก็คือ สินค้าเราคุณภาพดีแล้วก็มีครบทุกอย่าง คือลองไปดูสินค้าของ Master Art เนี่ย เรามีหมด ตั้งแต่สินค้าขายดีดินสอสี อย่างกลุ่มสี สีโปสเตอร์ สีเทียน สีทุกประเภทที่ทุกคนต้องใช้เรามีหมด ดินสอ กระเป๋าดินสอ ไม้บรรทัด วงเวียน เรามีทุกอย่าง สำหรับเด็กที่ไปโรงเรียน คุณคิดว่าต้องใช้อะไรบ้างถ้าไปโรงเรียน ต้องใช้อะไรบ้างในการเรียนรู้ ในการพัฒนาการของเขา ถ้างั้นเป็นความครบของสินค้าที่ Master Art มีให้ทุกอย่าง แล้วก็ส่งให้กับลูกค้าในคุณภาพที่ดี จับต้องได้”
ความสำคัญระหว่างอุปกรณ์ กับจินตนาการ
               “ไม่มีอะไรมากกว่ากัน เป็นสิ่งที่ต้องคู่กันไป ถ้าเรามีจินตนาการแต่ไม่รู้จะสื่อออกมาทางไหน ไม่มีอุปกรณ์ที่จะสร้างจินตนาการของเขาออกมา งานนั้นมันก็จะไม่ออกมา จินตนาการมันก็จะอยู่แค่พื้นที่จำกัดเป็นเพียงสิ่งที่คิดในหัว มันจะไม่ถูกนำออกมาให้คนอื่นเห็น หรือนำมาพัฒนาต่อ เพราะฉะนั้นอุปกรณ์กับจินตนาการมันต้องมาด้วยกัน ถ้าเรามีอุปกรณ์พร้อม มีอุปกรณ์ที่ดี จินตนาการมันจะก็สื่อออกไปได้ไกลมากขึ้นอีก”
หลายคนคิดว่าสินค้า Master Art เป็นสินค้าของเด็กเล่น จริงหรอ?
               “ของเล่นก็คือของเล่น แต่ว่าสำหรับของเรามันจะเป็นอุปกรณ์ศิลป์ และเครื่องเขียนสำหรับเด็กมากกว่า มันไม่ได้แค่เอาไว้เล่น แต่ว่าสินค้าทุกอย่างมันเป็นการเสริมสร้างจินตนาการให้เขา มันช่วยพัฒนาการของเขาแล้วก็ใช้งานได้จริง ๆ ในเวลาที่เขาไปเรียน หรือว่านอกเหนือเวลาเรียน ถ้างั้นตรงนี้มันจะไม่ใช่ของเล่น แต่ว่าถ้าพูดในเชิงของเล่นที่ทำให้เขาผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขเวลาเขาหยิบจับ ใช่ สินค้าเราเป็น ของเล่น ในแง่มุมนั้น”
 อุปกรณ์จาก Master Art จะช่วยเสริมพัฒนาการให้เด็กๆ ได้ดีอย่างไร
              “อย่างพวกดินสอสี เราจะทำ size ที่เป็นขนาดจัมโบ้ด้วย อย่างตอนนี้ที่เราเพิ่งออกมาได้ไม่นาน ก็จะเป็นรุ่น 3 in 1 เด็กเขาจะมีพัฒนาการตามวัย เช่น กลุ่มอายุไม่ถึง 2 ขวบ วิธีการจับดินสอ เขาไม่ได้จับแบบที่เราจับกัน เขาจะไม่ได้ใช้นิ้วจับ เขาจะกำแล้วก็วาดลงบนกระดาษ เราก็เลยมีสินค้าตัวนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เด็กตรงนี้ด้วย เพราะเวลาเขากำ เวลาเขาเขียนบนกระดาษ นอกจากที่เขาได้ฝึกจิตนาการ เขาได้พัฒนาสมองแล้วยังได้ฝึกกล้ามเนื้อมือด้วย หรืออย่างเด็ก ๆ ที่ยังจับนู่น จับนี่ไม่ถนัด แต่ว่าเขาเริ่มมีขีดเขียน เอามือไปบนกำแพง เริ่มวาด อะไรแบบนี้ ตรงนั้นเราก็จะมีสี finger paint ที่ตอบโจทย์ เด็กสามารถละเลงนิ้วมือของเขาลงบนกระดาษ ลงผนัง ลงเสื้อผ้า โดยที่แม่ไม่ต้องกลัวความอันตรายหรือซักไม่ออก เช็ดไม่ออก ของเราเช็ดออกหมด แล้วก็การที่เขาได้ปลดปล่อยจินตนาการ มันช่วยให้เขาได้พัฒนาสมองด้วย”
นิยามของสีคุณภาพดีสำหรับ แบรนด์ Master Art
 “จริง ๆ คุณภาพสีที่ดีของสีแต่ละประเภทต่างกันนะ จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน อย่างสีไม้ที่ดีก็ต้องระบายแล้วมันนุ่มลื่น ไม่เมื่อยมือ ต้องเหลาง่าย ไส้ไม่หัก แล้วก็เวลาระบายไปแล้ว สีจะต้องถมเต็มพื้นที่ สามารถไล่แสงเงาได้ สีซ้อนทับกันได้ หรือสีเทียน สีก็ต้องสด มีความเป็นไขน้อย ระบายลื่นลงบนกระดาษ แต่ว่าทั้งหมดเลยต้องมีความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง”
เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ทำเพื่อเด็ก ๆ โดยเฉพาะเลยใช่ไหม
               “กลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหญ่ ๆ เลยมันอยู่ที่ประมาณ 6-15 ปี ซึ่งถามว่า Master Art พูดได้ไหมว่าเป็นสินค้าเด็ก พูดได้… เพราะด้วยแบรนด์ ด้วยสินค้ามันไปในทางนั้นด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีไม้ สีเทียน สีโปสเตอร์ หรือดูจาก packaging เราก็จะมาทางเด็กเลย เพราะกลุ่มตลาดใหญ่ของเราอยู่ตรงนั้น แต่สำหรับสินค้าที่เราพยายามพัฒนาให้มันใช้ได้ในกลุ่มอายุที่มันโตขึ้น packaging เราก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้มันทันสมัยให้มันใช้ได้กับทุกวัยมากขึ้น ลองไปดูกล่องชมพู กับกล่อง master series ก็ได้ มันคือแบรนด์เดียวกัน แต่มันเห็นความแตกต่างในแง่ของหน้าตาของผลิตภัณฑ์ รวมถึงคุณภาพข้างในด้วย มันจะเห็นชัดเลยว่ากลุ่มเป้าหมายของ 2 ตัวนี้ต่างกันยังไง สำหรับของตัวแบรนด์เองที่สินค้าจะถูกมองว่าเป็นสำหรับเด็กอย่างเดียวมันก็ถูกต้อง เพราะมันคือหัวใจหลักของเราเลย แต่มันสามารถใช้ได้ในทุกวัยเหมือน ๆ กัน สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มวาดภาพ คนที่อยากจะลองใช้สินค้าก่อน ซึ่งของเรามันให้ทุกคนใช้ได้ ไม่ได้หมายความว่าต้องเด็กอย่างเดียวเท่านั้น คุณโตกว่านี้ คุณซื้อเราไม่ได้ ก็ไม่ใช่ เขาก็สามารถมาซื้อสินค้าของเราได้ แต่ว่า core หลัก คือเป็นเด็ก”
แนะนำสินค้าของ Master Art สัก 1 ชิ้น
               “ก็ต้องเป็นดินสอสี master series เราให้ความสำคัญกับคุณภาพมากจริง ๆ เราลองกันในทุก ๆ แบบ ที่เราคิดว่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ เรื่องของความนุ่ม ความลื่นของสี ต้องอยู่ในระดับที่เท่าไหร่ มันต้องนุ่มขนาดไหน ต้องลื่นแค่ไหน สีมันต้องสดอย่างไร เฉดสีแบบที่ผู้ใช้จะชอบ ไส้มันต้องขนาดเท่านี้ จะเป็นองศาที่เหมาะสมในการวาดภาพระบายสี เราคิดในทุก ๆ ขั้นตอน กว่าที่สินค้าจะออกมา ในกล่องควรจะต้องมีกบเหลาแถมให้ เพื่อให้ผู้ใช้ไปหาเอาเองที่ไหน อีกส่วนหนึ่งก็คือความปลอดภัย เราผ่านแล็บอย่างจริงจังเพื่อทดสอบว่าคุณภาพเรามันผ่านมาตรฐานยุโรป ได้มาตรฐานอเมริกา ปลอดภัยสำหรับเด็ก ไม่มีสารพิษ ในขณะที่เรายังให้ความลื่น ความนุ่ม ความสดของสีตามคุณภาพของเราทุกวันนี้ไปสู่ตลาดให้ได้ เพราะฉะนั้นตัวนี้เป็นที่ใคร ๆ ลองแล้วก็จะรัก เพราะมันสินค้าที่เฉดสีมันเป็นธรรมชาติ เลยเป็นสิ่งที่เราอยากแนะนำ”