การบริหารงานในธุรกิจขนาดใหญ่ ๆ ย่อมมีการปรับตัวตามยุคสมัยมากขึ้น กระบวนการทำงานสำหรับ ดี.เอ.ช.เอ. สยามวาลา จำกัด ก็คงไม่สามารถจะย่ำอยู่กับที่เดิม ๆ ได้ รูปแบบการทำงานจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนามีการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพที่ดี เราเองต้องมีความเข้าใจ ต้องก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลงทางด้านธุรกิจ มีการวางแผนเพื่อปรับกลยุทธ์ในการทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และให้ความสำคัญนั้นคือการสร้างทุนบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพของตนออกมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

                ภายใต้การนำของ ‘โอภาส สยามวาลา’ Chief Operating Officer บริษัท ดี.เอช.เอ. สยามวาลา จำกัด ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพนักงาน และต้องการให้องค์กรมีความยั่งยืน การสร้างทุนมนุษย์ให้มีความรู้ เพิ่มพูนศักยภาพในการทำงานไปพร้อมกับความรู้สึกรับผิดชอบทั้งต่อองค์กร และผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไปด้วยเช่นกัน
องค์กรที่ประสบความสำเร็จ ต้องมีจุดแข็งหรือวิธีการที่นำไปสู่ความยั่งยืน

                “ผมว่าจุดแข็งอันหนึ่งขององค์กรเราก็คือเรามี Talentful มาจากหลากหลายแนวทาง ผู้บริหารแต่ละคนจะนำเอาขีดความสามารถและประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งมีความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ จริง ๆ มันเป็นการรวบรวมความหลากหลายเชิงชีวภาพ ความหลากหลายของผู้คนลักษณะต่าง ๆ นำเอาเข้ามารวมกัน แต่เมื่อเอามารวมกันแล้ว สิ่งที่ควรจะเป็นก็คือมันจะต้องมี Leader ที่จะปักธง ปักไปข้างหน้าว่าฉันจะไปตรงนี้นะ แล้วผู้บริหารจะต้องมีความสามารถในการสื่อสารเพื่อทำให้ทุกคนเห็นเป้าหมายร่วมกัน ทุกคนมองไปในทิศทางเดียวกัน แล้วทุกคนจะใส่พละกำลังแล้วเดินไปจนถึงเป้าหมายนั้น อันนี้คือองค์ประกอบที่ผู้นำจะต้องมี”

การปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็นไปตามสถานการณ์ ตามยุคสมัย

               “ที่บริษัทนี้เรามี motto อยู่อันหนึ่ง ก็คือ ‘One Step Ahaed’ มันเป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาในการดำเนินงานของเรา เราจะต้องพยายามดีกว่าหนึ่งขั้นเสมอ และตัวนี้มันเป็นฟันเฟืองที่ผลักดันให้บริษัทเดินไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าบริษัททุกบริษัทต้องมีอุปสรรค แล้วมันก็มีปัญหา มีความท้าทายต่าง ๆ มันอยู่ตรงที่ว่าเราปรับตัวและสู้แรงความท้าทายเหล่านี้อย่างไรบ้าง ในระหว่างทางที่เดินมันย่อมต้องมีขวากหนาม บางทีมันกระโดดมันมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ เราจะต้องมี Route เราจะต้องไม่พลาดให้เป้าหรือธงที่เราตั้งไว้มันหายไป

‘จัดสรรสรรพกำลังของบริษัทที่มีอยู่ให้พร้อม เหมือนการจัดทัพให้พร้อมที่จะเข้าไปจะโจมตีเป้าหมาย ถัดจากนั้นก็ต้องมีแม่ทัพในกองที่มีขีดความสามารถ เพื่อที่จะพากองทัพหรือบริษัทเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง’
              “เราจะต้องเห็นความสามารถของคนที่เราเชิญมาร่วมงาน สิ่งที่ผมจะพยายามคิดอยู่เสมอ ก็คือพนักงานท่านนี้ ผู้บริหารท่านนี้มีศักยภาพอะไรบ้างอย่างที่อยู่ในตัวตนของเขา นั่นคือเหตุผลที่เราเชิญเขามา และหวังว่าศักยภาพความเป็นตัวตนของเขาจะสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมที่บริษัทเป็น ที่บริษัทเรามีผู้บริหารที่มีประสบการณ์เยอะ เรียกว่าอ่านเกมขาด สิ่งที่เราต้องการก็คือกล้ามเนื้อที่เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เวลาเบ่งกล้ามต้องแบบประเภทเสื้อขาด แล้วท่านเหล่านี้จะต้องเป็นผู้ที่นำเอาเกมต่าง ๆ ต้องเป็นตัวที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Agent of Change เป็นคนที่เป็นตัวแปรเข้าไปปรับให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงใดใดก็แล้วแต่ ‘เราจะเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าผู้บริหารท่านนี้ พนักงานท่านนี้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แล้วสามารถเดินออกไปสู่ตลาดเพื่อไปทำการเปลี่ยนแปลงหรือในองค์กรที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปก็แล้วแต่"
บริหารคนทำงาน เหมือนบริหารร่างกายให้มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ สามารถพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
              “การที่เรามีคนมาจากหลากหลายที่ก็จะพบว่ามันมีความแตกต่างทางการรับรู้ ขีดความสามารถ เพื่อที่จะทำให้แต่ละท่านสามารถทำงานได้ดีก็ต้องมีการปรับ ตัวอย่างเช่นเรื่องของภาษาเพราะผมถือว่า ภาษาเป็นพื้นฐานในการสื่อสาร เราก็ต้องมีการปรับพื้นฐานเหล่านี้ในการที่จะทำให้เขาสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมขององค์กรได้ เพราะฉะนั้นเราก็จะทำผ่านการปฐมนิเทศเป็น Orientation สำหรับพนักงานที่เข้ามาใหม่ เพื่อให้เขาสามารถเจริญเติบโตได้ในองค์กร เขาต้องทราบว่าเขาต้องทำงานยังไง ความคาดหวังของเขาเป็นยังไง แล้วมันก็จะมีองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่มันอยู่ในงานที่จะต้องเรียนรู้ อันนั้นก็จะต้องทำ OJT (on the job training) โดยหัวหน้างาน โดยการลงทำงานจริง Observe ไปเรื่อย ๆ มีการปรับ มีการเปลี่ยนไปตามความต้องการของพนักงานเหล่านั้นเพื่อที่จะทำงานได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีการฝึกอบรมภายใน ที่จัดขึ้นมาโดยให้ผู้บริหารขององค์กร มาให้การอบรมเชิงความรู้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการบริหารจัดการ หรือความรู้ที่มัน Specific ไม่ได้พูดถึงเรื่องทั่วไปอย่างเดียว แต่เป็นองค์ความรู้ที่มันเฉพาะเจาะจงเลยกับสายงาน อันนั้นเพื่อทำให้พนักงานทำงานได้”

‘บริษัทพยายามสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น ทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้ได้เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปนั่งเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียว’
              บริษัทพัฒนาระบบที่เรียกว่า ilearn พยายามจัดสรรหัวข้อต่าง ๆ แล้วก็จะพยายามเชิญชวนพนักงานให้เขามาเรียนรู้ตรงนี้ เพราะว่าการเรียนรู้มันไม่มีวันหยุด มันเรียนรู้กันได้เรื่อย ๆ ทุกวัน ทุกนาที เราก็จะเรียนรู้ากการทำงาน เราหยุดอยู่กับบ้าน เราก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้ ไม่ต้องหยุดอยุ่เฉพาะการทำงาน ตกลงบริษัทเราพยายามให้เกิดเรื่องเหล่านี้ เกิดขึ้นทุกจังหวะที่จะเป็นไปได้”
มีเสียงเรียกร้อง (ในใจ) ว่า จริง ๆ แล้ว ‘ผู้บริหารมักไม่ค่อยรู้ปัญหาจริง ๆ ของพนักงาน’ หรอก

              “จริงครับ จริง… มันจะมีเส้นบาง ๆ อยู่ ผู้บริหารสำหรับบางคนเขาอยู่สูงจัง โอกาสที่จะเข้าไปสัมผัสเขามันยากเย็นแสนเข็ญอะไรขนาดนี้ ผมคิดว่าเป็นปัญหาขององค์กรทั่วไป เส้นบาง ๆ อันนั้นมันยังมีอยู่เสมอ แต่ว่าสิ่งที่เราพยายามทำก็คือเราพยายามให้ความเป็นกันเองเพื่อลบช่องว่างตรงนี้ เราทำผ่านหลายเรื่องเลย ผมยกตัวอย่าง ‘สุหฤท’ เก่งมาก เรื่องของการพยายามทำให้พนักงานมีความรู้สึกว่าระยะห่าง ระยะทางมันสั้นลง เขาจะมีกิจกรรมอะไรของเขาอยู่เรื่อย ๆ เดี๋ยวบางวันเดินมาอารมณ์ดี แจกดอกไม้ เดินเข้ามาในห้องประชุมเอาเชอร์รี่เอามาวางให้ (หัวเราะ)
 
‘สำหรับคำว่าองค์กรมันเป็นตัวตึก แต่ทั้งหมดนี้มันอยู่ที่ sub peopleware ที่อยู่ในองค์กร ที่เป็นขุมกำลังหลักที่จะดันให้ของเหล่านี้ vision เหล่านี้ ความต้องการเหล่านี้ แผนเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ ให้มันออกมาเป็นชิ้นงาน เป็นธุรกิจให้สำเร็จได้’
              “ราวเรื่องหนึ่งที่ผมมีความรู้สึกภูมิใจมาก ตอนนั้นประเทศไทยปรับมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสินค้า ปลั๊กไฟ ในสมัยก่อนสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมเขาปรับมาตรฐานให้สูงขึ้น ทำให้สินค้าที่นำเอามาจำหน่ายในประเทศไทยมันตกมาตรฐาน บริษัทเราก็เป็นผู้นำเข้าสินค้ามาตัวหนึ่งเป็นสินค้าที่ดี แต่เนื่องจากว่ามันอาจจะยังมีข้อกำหนดบางข้อที่ไม่เข้ากับมาตรฐานก็ทำให้สินค้าตัวนี้ถึงกับจะหมดอนาคตกันเลย และนี่คือ Challenge ที่เข้ามา สิ่งที่ผู้บริหารทำก็คือปักธง คือบอกว่าเราจะต้องมีสินค้าตัวนี้ขายในประเทศไทยที่ผลิตโดยบริษัทในประเทศไทย จากคำสั่งนี้คำสั่งเดียวเราทำทั้งหมดภายในระยะเวลาเพียง 9 เดือน จากไม่มีอะไรเลย มีแต่คำสั่งของผู้บริหารที่มาบอกว่า ‘ฉันต้องการไอ้นี่’ ด้วยคำสั่งนั้นคำสั่งเดียว สิ่งที่มันตามมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องมีการออกแบบหา source ต่าง ๆ เราต้องจัดรูปแบบการผลิตที่เข้ากับมาตรฐาน และก็ไม่ใช่แค่นั้นแต่เราต้องมีการตรวจสอบโดย สมอ. เขาต้องมาตรวจที่โรงงานของบริษัท แล้วก็บอกว่า โอเค คุณผ่านนะ เราต้องสั่งอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ทั้งหมดเลย มันมีรายละเอียดที่เกิดขึ้นระหว่างทางเนี่ยเยอะมาก แต่เนื่องด้วย Leadership ขององค์กรเรามีความสามารถในการที่จะสรรหา มีความสามารถในการออกแบบ เรามีความสามารถในกระบวนการผลิต เรามีขีดความสามารถในการตรวจสอบคุณภาพ เรามีขีดความสามารถในการจัดจำหน่าย ภายใต้ระยะเวลาอันจำกัด เราสามารถที่นำเอาของเหล่านี้มาขายได้ในตลาดโดยที่ทำให้ไม่สูญเสียโอกาสอันดีตรงนี้ไป"