เชื่อว่าไอเท็มที่ทุกคนส่วนใหญ่มักพกติดตัวตลอด และขาดไม่ได้เลยคือ ‘ปากกา’ ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ไปธุระที่ใด ก็ต้องนำปากกาด้ามโปรดไปด้วย เพราะมันเป็นเหมือนอุปกรณ์เล็กๆ อย่างหนึ่งที่สามารถขีดเขียน เซ็นเอกสารต่าง ๆ และแบรนด์ปากกาอีกรุ่นหนึ่งที่มีชื่อเสียงคุ้นหู ไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องรู้ ที่การันตีได้ว่า ใช้ดีทุกด้ามและทั้งด้ามด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ปากกาทุกด้ามเข้าไปอยู่ในใจทุกคน นั่นก็คือ แบรนด์ Quantum
พูดคุยกับ Product Manager ของแบรนด์ ‘โอ ณัฐธภัทร์ กตัญญูเสริมพงษ์’ ถึงจุดเริ่มต้นและแนวคิดที่นำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์ปากกาชั้นนำระดับประเทศ ที่มีการพัฒนาให้สินค้ามีความก้าวหน้าด้วยการคัดสรรวัสดุ ควบคุมกระบวนการผลิตและวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำหมึกและหัวปากกาให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งด้ามและทุกด้าม
ความท้าทายจากการที่ได้เข้ามาดูแลแบรนด์ Quantum
“ต้องบอกก่อนเลยว่าอย่างแรก แบรนด์ปากกาถ้าเรามีค่อนข้างเยอะ เยอะมากที่สุด เยอะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เท่าที่จำได้ แบรนด์ปากกาที่อยู่ในประเทศเรา มีอยู่ประมาณ 60 กว่าแบรนด์ และ Quantum เป็นหนึ่งในนั้นที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุด ความท้าทายแรกคือเราต้อง Maintain Position ของแบรนด์ให้ยังเป็นที่หนึ่งในตลาดบ้านเราอยู่ แล้วก็เนื่องจากคู่แข่งตอนนี้ เข้ามาจากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม โซน AEC เริ่มเข้ามาที่ไทย เพราะฉะนั้นการแข่งขันในกลุ่มปากกา คือมันจะค่อนข้างเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง คู่แข่งเยอะเพราะฉะนั้นสิ่งที่มีความท้าทายเป็นอันดับ 2 คือ การที่เราจะทำยังไงให้แบรนด์ Quantum สินค้า Quantum เป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้า User กลุ่มใหม่ ๆ”
นึกถึง Quantum ให้นึกถึง...
“ตัว ‘Q’ ที่เป็นตัวอักษรตัวแรกของ Quantum เราพยายามให้ตัว Q ตัวนี้อยู่ในใจลูกค้า ถ้าลูกค้าเห็นตัว Q เขาจะรู้เลยว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพจากบริษัท ดี.เอช.เอ สยามวาลา และเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ Quantum ที่ผ่านการพิถีพิถันในการคัดกรองก่อนที่จะมาขาย นอกจากนี้ก็มีคู่สีที่ใช้ ปากกาในตลาดมีหลายแบบมาก สัญลักษณ์ที่เขาใช้ก็จะแตกต่างกัน สีที่ใช้โปรโมทสินค้าบนแพคเกจจิ้งก็จะต่างกันไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่ลูกค้าจะเห็นแน่ ๆ แล้วรู้เลยว่าวันคือ Quantum คือ ‘สีส้ม’ หรือที่เราเรียกว่า Warm Red C เวลาไปเห็นแพคเกจจิ้งที่ห้อยในชั้นวางต่างๆ มันก็จะมีหลากสี แต่ว่าที่เห็นแน่ ๆ คือสีส้ม สีมันจะเด่นขึ้นมาชัดเจน นั่นแหละคือ Quantum เพราะฉะนั้นถ้าคุณเห็นสีส้มปุ๊ป คุณสามารถเลือกเข้าไปซื้อสินค้าได้เลย”
Concept และ Product line ของ Quantum
“ถ้าพูดถึง Concept ของแบรนด์ Quantum หลักๆ ถ้าเราเห็นสโลแกนในตัวโลโก้มันจะมี Quantum และข้างล่างจะเขียนว่า Writing with Technology ความหมายคือสิ่งที่แบรนด์เราพยายามทำมาตลอดคือ การเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาในตัวสินค้า ทุกโปรดักส์ ไลน์ของ Quantum จะมีอยู่ประมาณ 7 กลุ่ม มี master highlighter กลุ่มดินสอดำ กลุ่มดินสอกด กลุ่มพวกอุปกรณ์การลบ แล้วก็ปากกา ปากกาเรามี 2 กลุ่ม คือปากกาที่เราตั้ง Position ให้หลัก ตลาดแมส แล้วก็กลุ่มปากกาที่เป็นพลาสติกที่เราให้ value มากกว่า ประมาณ 10 บาทขึ้นไป แล้วก็กลุ่มสุดท้ายที่เราเริ่มทำกลุ่มตลาดจริง ๆ จัง ๆ เมื่อปีที่แล้วคือ ปากกาเจล ที่ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี”
“เราพยายามที่จะโฟกัส เอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้กับสินค้าแบรนด์ Quantum ส่วนพวกคอนเซปต่าง ๆ ที่ออกมาควบคู่ไปกับโฆษณาต่าง ๆ อย่างเช่นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เราได้รับเกียรติจากน้องเมญ่า (นนธวรรณ บรามาซ) และตอนนั้นเราทำโฆษณาใช้คอนเซปว่า Write Your Own Life เพื่อที่ว่าเราต้องการจะชูว่า ปากกาที่ผู้ใช้เลือกใช้มันสามารถที่จะเขียนอนาคตของ User ได้ ซึ่งเราต้องการที่จะผลักดันให้แบรนด์ของเราเป็นหนึ่งในนั้น แล้วก็คอนเซปล่าสุดของเรา ‘Quantum Write Your Own Life With The Soul Of Writing’ มันจะเกี่ยวข้องกับการใช้งานเหมือนกัน คือเราจะพยายามมีคำว่า ‘Writing’ ตลอด เพราะว่าสินค้าหลัก ๆ ของเราจะเป็นกลุ่มปากกาที่เน้นการใช้เขียนอยู่แล้วนอกเหนือไปจากการเขียนเพื่ออนาคตและก็เขียนด้วยจิตวิญญาณ เราพยายามที่จะทำให้แบรนด์ของเราดูดี มี value มากขึ้น พยายามจะทำให้คนที่ซื้อปากกา Quantum ไปใช้ รู้สึกว่าเขาได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพมากกว่าราคาที่เขาจ่าย”
ความแตกต่างของปากกาหมึกชนิดต่างๆ ของ Quantum แล้วปากกาแบบไหนเขียนลื่นสุด?
“ปากกาจะมีกลุ่มลูกลื่น และกลุ่มปากกาเจลที่เราเพิ่งทำมาใหม่ ขอเริ่มที่ลูกลื่นก่อน ลูกลื่นมันเริ่มมาตั้งแต่สมัยก่อนที่เขาใช้ปากกาเป็นพวกน้ำหมึกชนิด high viscosity เป็นน้ำหมึกสูตรน้ำมันที่มีความหนืดสูง ความหมายคือ ถ้าความหนืดสูง เวลาเขียนน้ำหมึกมันจะออกช้า เขียนแล้วมันจะฝืด ซึ่งตอนนั้น Quantum เล็งเห็นว่ามันมีตลาดที่คนต้องการปากกาที่เขียนได้ลื่นขึ้น เราก็เลยพัฒนากับทางทีมงานของเราว่า พัฒนาสูตรน้ำหมึกชนิดแรกของ Quantum มันเรียกว่า ‘Gelobal’ มันดีกว่า ณ ตลาดตอนนั้นได้ไง… คือการที่เรานำน้ำหมึกสูตร Low viscosity มาใช้ ความหมายคือความหนืดน้อย มันจะให้การเขียนที่มีความ Smooth และลื่นขึ้น จนปัจจุบันมันมีการพัฒนามาจาก GeloBal มาเป็น ‘Gelo Plus’ แล้วก็มาเป็น ‘Geluloid’ คือน้ำหมึกที่ปัจจุบัน
Quantum ใช้อยู่ในเกือบทุก ๆ รุ่นของปากกา ยกเว้นปากกากลุ่ม ‘S-Series’ ที่เราจะใช้น้ำหมึกสูตรเฉพาะที่เรียกว่า Geluloid Plus”
“นอกเหนือไปจากกลุ่มน้ำหมึกที่เราใช้ Geluloid และ Geluloid Plus อยู่ ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรตัวชื่อเป็นเอกสิทธิ์ของ Quantum แล้ว ปัจจุบันจะมีกลุ่มปากกาที่เราตั้ง Position เอาไว้ให้มันสำรับการเข้าตลาดกลุ่มแมสทั่วไป เราเรียกกลุ่มปากกานั้นว่า ‘sketch’ เป็นกลุ่มที่ใช้น้ำหมึกที่มีคุณภาพดีกว่าในท้องตลาด แต่ว่าความลื่นและความ Smooth ในการเขียนจะน้อยกว่า Geluloid อีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มปากกาเจลที่เรามีการพัฒนากับคู่ค้าของเราที่ญี่ปุ่น เราตั้งชื่อมันว่า ‘Daiichi Gel’ ความหมายถ้าแปลตรง ๆ ศัพท์ภาษาญี่ปุ่นก็คือ ‘ปากกาเจลอันดับหนึ่ง’ ซึ่งรุ่นที่เราใช้น้ำหมึกนี้ปัจจุบันจะมีรุ่น Dolly มีขนาด 0.5 mm. และ 0.7 mm. เป็นสินค้าที่ made in Japan คุณสมบัติของมันคือ มีความลื่นที่ค่อนข้างดี เทียบเคียงกับคู่แข่งการตลาด เพราะน้ำหมึกเป็นสูตรเฉพาะคือแห้งเร็ว เพราะฉะนั้นการใช้ปากกาเจลเขียนจะไม่มีปัญหาว่ามันเปื้อนบริเวณฝ่ามือเวลาเขียน”
บางคนสับสนว่าทำไมเป็นลูกลื่น แต่ชื่อ Geluliod
“ความหมายที่เราอิงคำว่า Gel มาใช้ตั้งแต่ Gelobal, GeloPlus, Geluloid เพราะเราต้องการจะสื่อว่า ปากกาลูกลื่นของเราถึงแม้จะเป็นปากกา ต้องอธิบายก่อนว่าปากกาเจลเป็นน้ำหมึกสูตรที่เป็นน้ำ น้ำล้วน ปกติน้ำมันจะลื่นกว่าน้ำมันอยู่แล้ว เพราะว่าการไหลมันจะดีกว่า แต่เราต้องการจะสื่อว่าปากกาลูกลื่นของเราลื่นเปรียบเสมือนปากกาเจล เราเลยใช้ชื่อที่มีการอ้างอิงคำว่าเจลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จริง ๆ ก็คือหมึกน้ำมันที่มีความแห้งเร็วมาก”
ความพิเศษหรือเสน่ห์ของเครื่องมืออย่างปากกา
“ณ ปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามา มีปากกาเขียนหน้าจอได้ คนเขาเริ่มที่จะเปลี่ยน lifestyle ไปใช้ปากกาชนิดนั้นในการจดเลคเชอร์ก็ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ก็ดี แต่ว่าถ้าดูให้ดีบางสินค้าจะออกตัวกันรอยที่เป็นเนื้อแบบกระดาษสัมผัส ความหมายคือ คนยังต้องการที่จะได้ความรู้สึกเวลาเขียนบนกระดาษอยู่ เวลาเขียนบนหน้าจอ จะได้ความรู้สึกที่ไม่มีเสียงเคาะบนหน้าจอ มันจะไม่มีอารมณ์แบบนั้น ซึ่งคนยังให้คุณค่ากับการเขียนบนกระดาษอยู่ เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของปากกา มีลายมือที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละคน”
ปากกาแค่เขียนลื่นก็พอแล้วจริงหรือ ?
“ปากกาจริง ๆ มันไม่ใช่แค่ลื่นก็พอ ความหมายคือถ้ามันลื่นจนเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ เวลาเราเขียน ลายมือเราจะไม่สวย เพราะการไหลมันเยอะ แต่ว่าสิ่งที่ Quantum แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาดคือ เราเล็งเห็นในส่วนตรงนี้ เราเลยมีการควบคุมปริมาณการไหลของน้ำหมึก แล้วก็การทำร่วมกันระหว่างน้ำหมึกกับหัวปากกา เพราะว่า 2 ส่วนนี้มันต้องมีความสอดคล้องที่พอดีกัน แล้วก็นอกเหนือจากการเขียนลื่น มันก็จะมีดีไซน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยว่าเทรนด์ตอนนี้เป็นยังไง สีไหนกำลังมา ซึ่งในส่วนนี้ Quntum ก็มีการปรับและออกสินค้าใหม่ตลอดเวลาเพื่อที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ”
นอกจากน้ำหมึกแล้ว สิ่งใดที่เป็นจุดเด่นของปากกา Quantum อีก
“ในส่วนของ S-Series นอกเหนือจากน้ำหมึก Geluloid Plus สิ่งที่เราทำมาเพื่อให้สอดคล้องคือเทคโนโลยีหัวปากกาที่เรียกว่า Hi-PrecisionTip คือการเสริมความแข้งแกร่งให้กับหัวปากกาโดยใช้วัสดุอย่าง Super Alloy ความหมายคือ การเขียนด้วยปากกา Quantum S-Series ที่ใช้น้ำหมึก Geluliod Plus ผสมกับเทคโนโลยีอย่าง Hi-PrecisionTip มันจะทำให้การเขียนลื่นมาก แต่ยังสามารถควบคุมการเขียนให้สวยงามได้ มันจะย้อนแย้งที่พูดว่า ถ้าลื่นมากจะควบคุมการเขียนไม่ได้ แต่ว่าการใช้ S-Series จะลื่นมาก แต่ควบคุมการเขียนได้”
กว่าจะมาเป็น Product สักชิ้นของ Quantum มีวิธีการคัดสรรมาอย่างไรบ้าง?
“บริษัท ดี.เอช.เอ สยามวาลาก็จะมีคู่ค้า Suplier ต่างๆ มากมายที่เรามีการ deal และพัฒนาสินค้าด้วยกันมาตลอด กว่าจะมาเป็นปากกา Quntum 1 ด้าม สิ่งที่เราต้องทำเลยคือเราก็ต้องพัฒนาในส่วนของรูปแบบปากกาก่อนว่า รูปแบบ ลักษณะไหนที่เหมาะกับตลาดบ้านเเรา ปากกากดลักษณะไหน ปากกาปอกลักษณะไหนที่ลูกค้าให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยการทำการสำรวจหรือว่าทำสัมมนาอะไรก็แล้วแต่ พอเราได้ในส่วน design เราก็ต้องมาดูว่าเราต้องการที่จะใช้น้ำหมึกสูตรไหน ความลื่นระดับไหนเพื่อให้แมตช์กับรูปแบบลักษณะนี้ แล้วเราก็ต้องมาเจาะจงว่าสีที่เราต้องการของกลุ่มปากการุ่นใหม่ ๆ เราต้องการสีประมาณไหน อิงคอนเซปสีจากเทรนด์ประจำปี หรือสีที่เป็นที่นิยม เรามีการพัฒนาและก็เปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาด จากนั้นก็คำนึงถึงแพคเกจจิ้งว่าสินค้าที่เราจะชูลักษณะไหน ออกมารูปแบบเป็นอย่างไร สุดท้ายเลยก่อนที่สินค้าจะผลิตเสร็จ เราต้องมาดูในส่วนของคุณภาพสินค้าว่ามันโอเคแล้วหรือยังที่เราจะนำเข้าไปขายในตลาด”
ความก้าวหน้าของนวัตกรรมในยุคนี้ที่มีความรวดเร็ว แบรนด์มีการปรับตัวอย่างไรให้ก้าวตามทันทุกการเปลี่ยนแปลง
“เรื่องของปากกาดิจิทัล มันถือว่าเป็นอุปสรรคไหม อาจจะในอนาคตอีกสัก 10-20 ปี เพราะว่าปัจจุบันสินค้ากลุ่มที่เป็นปากกาดิจิทัลราคาค่อนข้างสูง แล้วก็ความรู้สึกในการเขียน มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนที่เราเขียนบนกระดาษ การเขียนแบบดิจิทัลแบบฟอร์ม ลายมือที่ออกมามันไม่ได้สวยเหมือนการเขียนบนกระดาษ สิ่งที่เราทำก็คือการที่เราพยายามผลักดันและ focus ในกลุ่มตลาดใหม่ ๆ ว่าการเขียนด้วยปากกามันดียังไง ก็คือเราจะไปเน้นการตลาดในส่วนนั้น”
เหตุผลที่จะทำให้คนเลือกใช้ปากกา Quantum แล้วต้องกลับมาซื้อใหม่
“หนึ่งในเหตุผลที่คนเลือกซื้อปากกาก็คือความลื่น ซึ่ง Quantum สามารถตอบสนองตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน แล้วอีกเรื่องหนึงคือ คุณภาพของสินค้า เรามีการคัดสรรทุกขั้น เรามีการเข้าไปมีส่วนร่วมตลอด กว่าที่เราจะนำสินค้าตัวใดตัวหนึ่งมาขาย เราต้องมีการตรวจสอบแล้วว่า คุณภาพมันโอเคตามมาตรฐานแล้วจริง ๆ เพราะฉะนั้นการที่ลูกค้าซื้อปากกา Quantum ไป 1 ด้าม มั่นใจได้เลยว่าจะไม่พบปัญหาในการใช้งาน”
ให้เลือกปากกา 1 ด้ามพกติดตัวไปใช้ในทุกสถานการณ์ จะเลือกด้ามไหน..?
“เลือกด้ามที่เขียนดีที่สุด ณ ตอนนี้ ก็จะเป็นกลุ่มปากกา S-Series ก็จะมี S500 กับ S700 แต่ว่า S500 เราเพิ่งมีการปรับรูปโฉมใหม่ เทรนด์สีใหม่ ตัวด้ามเป็นยางทั้งด้าม มันก็จะให้ความรู้สึกสบายมือเวลาเขียน ก็คิดว่าจะเลือกใช้ S500 ใช้ทุกสถานการณ์ครับ นอกเหนือจากเรื่อง design ตัว S-Series มันจะมีความพิเศษในส่วนของหัวปากกา จะเป็นหัวที่ใช้วัสดุชนิดพิเศษมาผลิต มีความคงทนแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะไม่พบปัญหาว่า ปากกาตกพื้นเขียนต่อไม่ได้ ปัญหาพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ S500 กับ S700 แน่ ๆ”